การจดทะเบียนธุรกิจและผลการให้บริการ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจและผลการให้บริการประจำเดือนเมษายน 2560 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ เดือนเมษายน
• จำนวนการจดทะเบียน มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนเมษายน 2560 จำนวน 4,783 ราย เพิ่มขึ้น 796 ราย คิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 3,987 ราย แต่ลดลงจำนวน 1,989 ราย คิดเป็น 29% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 6,772 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิก มีจำนวน 878 ราย ลดลง จำนวน 289 ราย คิดเป็น 25% เมื่อเทียบเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,167 ราย และลดลง จำนวน 19 ราย คิดเป็น 2% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 897 ราย
• จำนวนการจดทะเบียน มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนเมษายน 2560 จำนวน 4,783 ราย เพิ่มขึ้น 796 ราย คิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 3,987 ราย แต่ลดลงจำนวน 1,989 ราย คิดเป็น 29% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 6,772 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิก มีจำนวน 878 ราย ลดลง จำนวน 289 ราย คิดเป็น 25% เมื่อเทียบเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,167 ราย และลดลง จำนวน 19 ราย คิดเป็น 2% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 897 ราย
• มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ ในเดือนเมษายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน9,352 ล้านบาท คิดเป็น 75% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 12,480 ล้านบาท แต่มีมูลค่าลดลง จำนวน4,809 ล้านบาท คิดเป็น 18% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 26,641 ล้านบาท
• ประเภทธุรกิจที่มีการประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 425 ราย รองลงมาธุรกิจโฮลดิ้ง จำนวน 362 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 273 ราย ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ จำนวน 236 ราย และธุรกิจภัตตาคาร /ร้านอาหาร จำนวน 109 ราย ตามลำดับ
• ห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 เมษายน 60) จำนวน 1,383,897 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนรวม 20.84 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 661,998 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 16.10 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 479,972 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,165 ราย และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,861 ราย
การคาดการณ์ตลอดปี 2560
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.60) มีการจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 23,585 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 2,075 ราย คิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.59 = 21,510 ราย) ซึ่งสูงกว่าที่กรมคาดการณ์ไว้ทั้งปีจะมีอัตราการจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 3% เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายเพิ่มมากขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ยุโรป และกลุ่มประเทศ CLMV นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐ ที่เกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนยังได้รับผลบวกจากการขยายเวลามาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศต่อไปอีก 1 ปี เป็นสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2560 แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ความผันผวนของตลาดเงิน ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา และความไม่แน่นอนทางการเมืองของยุโรป รวมทั้งสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.60) มีการจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 23,585 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 2,075 ราย คิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.59 = 21,510 ราย) ซึ่งสูงกว่าที่กรมคาดการณ์ไว้ทั้งปีจะมีอัตราการจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 3% เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายเพิ่มมากขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ยุโรป และกลุ่มประเทศ CLMV นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐ ที่เกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนยังได้รับผลบวกจากการขยายเวลามาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศต่อไปอีก 1 ปี เป็นสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2560 แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ความผันผวนของตลาดเงิน ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา และความไม่แน่นอนทางการเมืองของยุโรป รวมทั้งสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด
ผลการให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนเมษายน2560
DBD e-Registration
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เริ่มให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด) ผ่านระบบ จดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2560 เป็นต้นมา จนถึง ณ วันที่ 30 เมษายน 2560 มีผู้สมัครใช้ระบบงาน จำนวน 2,765 ราย ได้รับการอนุมัติ จำนวน 970 ราย โดยมีการเข้าไปยืนยันการใช้ระบบ (Activate) จำนวน 696 ราย และมีการยื่นจดทะเบียนทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) จำนวน 20 ราย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เริ่มให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด) ผ่านระบบ จดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2560 เป็นต้นมา จนถึง ณ วันที่ 30 เมษายน 2560 มีผู้สมัครใช้ระบบงาน จำนวน 2,765 ราย ได้รับการอนุมัติ จำนวน 970 ราย โดยมีการเข้าไปยืนยันการใช้ระบบ (Activate) จำนวน 696 ราย และมีการยื่นจดทะเบียนทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) จำนวน 20 ราย
บริการ DBD e-Service
ให้บริการตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยค้นหาข้อมูลนิติบุคคลจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนงบการเงิน รายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ และข้อมูลสมาคมการค้าและหอการค้า รวมทั้งมีบริการข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆและสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application: DBD e-Service) ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557เป็นต้นมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง มีสถิติผู้เข้าใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 รวมทั้งสิ้น 3,134,692 ครั้ง โดยในเดือนเมษายน 2560 มีผู้ใช้บริการ จำนวน 124,243 ครั้ง เพิ่มขึ้น จากเดือนก่อน (ม.ค.57–มี.ค.60 = 3,010,449 ครั้ง) คิดเป็น 4%
ให้บริการตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยค้นหาข้อมูลนิติบุคคลจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนงบการเงิน รายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ และข้อมูลสมาคมการค้าและหอการค้า รวมทั้งมีบริการข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆและสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application: DBD e-Service) ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557เป็นต้นมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง มีสถิติผู้เข้าใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 รวมทั้งสิ้น 3,134,692 ครั้ง โดยในเดือนเมษายน 2560 มีผู้ใช้บริการ จำนวน 124,243 ครั้ง เพิ่มขึ้น จากเดือนก่อน (ม.ค.57–มี.ค.60 = 3,010,449 ครั้ง) คิดเป็น 4%
DBD e-Filing
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนและนิติบุคคลทั่วไปตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นมา จนถึงณ วันที่30 เมษายน 2560มีสถิติผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 540,331 ราย แสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่และได้รับอนุมัติ จำนวน 503,491 รายและมีรายละเอียดการนำส่งงบการเงิน ดังนี้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนและนิติบุคคลทั่วไปตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นมา จนถึงณ วันที่30 เมษายน 2560มีสถิติผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 540,331 ราย แสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่และได้รับอนุมัติ จำนวน 503,491 รายและมีรายละเอียดการนำส่งงบการเงิน ดังนี้
นิติบุคคลต้องนำส่งงบการเงิน
• ปีงบการเงิน 2558 จำนวน 568,278 ราย
• ปีงบการเงิน 2559 จำนวน 591,052 ราย
นำส่งงบการเงินแล้ว ภายใน 30 เม.ย.60
• ปีงบการเงิน 2558 จำนวน 479,571 ราย (คิดเป็น 84%ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบฯ)
– ส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 369,022 ราย (คิดเป็น 77% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบฯแล้ว)
– ส่งงบกระดาษ จำนวน 110,549 ราย (คิดเป็น 23% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบฯแล้ว)
• ปีงบการเงิน 2559 จำนวน 79,345 ราย (คิดเป็น13%ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบฯ)
– ส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 63,271 ราย (คิดเป็น 80% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบฯแล้วหรือ คิดเป็น 11% ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบฯ)
– ส่งงบกระดาษ จำนวน 16,074 ราย (คิดเป็น 20% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบฯแล้ว)
การจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เริ่มให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นมา จนถึง ณ วันที่ 30 เมษายน 2560 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 132,836 คำขอ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินที่นำมาการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,964,869 ล้านบาท โดยแบ่งประเภททรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันได้ มีดังนี้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เริ่มให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นมา จนถึง ณ วันที่ 30 เมษายน 2560 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 132,836 คำขอ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินที่นำมาการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,964,869 ล้านบาท โดยแบ่งประเภททรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันได้ มีดังนี้
1. สิทธิเรียกร้อง มูลค่าทั้งสิ้น 1,529,961 ล้านบาท คิดเป็น 77.86% แบ่งเป็น
– บัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่า 1,111,697 ล้านบาท คิดเป็น 56.57%
– สิทธิการเช่า มูลค่า 68,003 ล้านบาท คิดเป็น 3.46%
– อื่นๆ เช่น ลูกหนี้การค้า มูลค่า 350,261 ล้านบาท คิดเป็น 17.83%
2. สังหาริมทรัพย์ มูลค่าทั้งสิ้น 432,953 ล้านบาท คิดเป็น 22.04% แบ่งเป็น
– สินค้าคงคลัง/วัตถุดิบ มูลค่า 256,988 ล้านบาท คิดเป็น 13.08%
– เครื่องจักร/รถยนต์/เรือ มูลค่า 175,965 ล้านบาท คิดเป็น 8.96%
3. ทรัพย์สินทางปัญญา มูลค่าทั้งสิ้น 1,955 ล้านบาท คิดเป็น 0.10%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกใบอนุญาตผู้บังคับหลักประกัน จำนวน 369ราย
ธรรมาภิบาลธุรกิจ
ภารกิจที่สำคัญของกองธรรมาภิบาลธุรกิจ คือ การสร้างธรรมาภิบาลในภาคธุรกิจ ได้จัดให้มีโครงการประกวดธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น ประจำปี 2560 เป็นครั้งที่ 6 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 โดยใช้หลักธรรมาภิบาลธุรกิจ 6 หลัก ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ซึ่งธุรกิจที่จะสมัครเข้าร่วมประกวดต้องเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และต้องส่งงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าต่อเนื่องทุกปี ธุรกิจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการโดยกรอกใบสมัครพร้อมแบบประเมินตนเองตามหลักธรรมาภิบาล ทางออนไลน์ได้ที่ www.dbd.go.th หรือ www.thaigoodgovernance.com ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธรรมาภิบาลธุรกิจ โทรศัพท์ 0 2547 5988 โทรสาร 0 2547 4512 E-mail : dbd2558@gmail.com
ภารกิจที่สำคัญของกองธรรมาภิบาลธุรกิจ คือ การสร้างธรรมาภิบาลในภาคธุรกิจ ได้จัดให้มีโครงการประกวดธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่น ประจำปี 2560 เป็นครั้งที่ 6 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 โดยใช้หลักธรรมาภิบาลธุรกิจ 6 หลัก ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ซึ่งธุรกิจที่จะสมัครเข้าร่วมประกวดต้องเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และต้องส่งงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าต่อเนื่องทุกปี ธุรกิจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการโดยกรอกใบสมัครพร้อมแบบประเมินตนเองตามหลักธรรมาภิบาล ทางออนไลน์ได้ที่ www.dbd.go.th หรือ www.thaigoodgovernance.com ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธรรมาภิบาลธุรกิจ โทรศัพท์ 0 2547 5988 โทรสาร 0 2547 4512 E-mail : dbd2558@gmail.com
*******************************
ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ ฉบับที่ 61 / 15 พฤษภาคม 2560