เวลาเริ่มธุรกิจใหม่ คนส่วนใหญ่จะคิดถึงไอเดียทางธุรกิจ ความเป็นไปได้ทางตลาด เงินทุน และคนที่จะมาเป็นหุ้นส่วนกับเรา โดยเฉพาะในการจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย ในปัจจุบันกำหนดให้มีผู้ถือหุ้นขั้นต่ำ 3 คน จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ 7 คน ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นไปได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่พบส่วนใหญ่ คือแบ่งหุ้นให้ทุกคนเท่าๆกัน ในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้ง บ้างก็ตกลงว่าจะเป็นคนลงเงิน บ้างก็บอกว่าตัวเองจะเป็นคนลงแรง แต่ที่ระบุในใบหุ้นที่จดทะเบียนตั้งบริษัทคือทุกคนถือหุ้นเท่าๆกัน
อาจจะเป็นเพราะความเป็นมือใหม่ในการทำธุรกิจ หรือความเป็นคนขี้เกรงใจของคนไทย แต่เรื่องจำนวนของหุ้นส่วน เปอร์เซนต์การถือหุ้น และหน้าที่รวมถึงผลตอบแทนของหุ้นส่วนแต่ละคนกลับถูกละเลยไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งปัญหานี้เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่บริษัทที่เกิดใหม่ หรือ Startup จะมีปัญหาถึงขั้นแตกหัก หรือฟ้องร้องกันเป็นเรื่องราวใหญ่โตในอนาคต
วิธีง่ายๆที่จะป้องกันปัญหาเหล่านี้คือ ทำให้ชัดเจนแต่แรก แยกให้ชัดเจนระหว่างความเป็นเพื่อนกับธุรกิจ และของฟรีไม่มีในโลก
ใคร
ถือหุ้นเท่าไหร่
เมื่อรู้ว่ามีใครที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัทแล้ว ขั้นต่อไปคือจะถือหุ้นในบริษัทคนละเท่าไหร่ และร่วมลงทุนด้วยอะไร ซึ่งปกติก็จะเป็นการลงขันตามเงินที่ระบุในใบหุ้น บางกรณีหุ้นส่วนอาจไม่ได้ลงเป็นเงิน แต่ลงเป็นแรงแทน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้ชัดเจนว่า กี่ชั่วโมง ทำอะไรบ้าง เทียบกับกับเงินในหุ้นเท่าไหร่
หน้าที่และผลตอบแทน
สรุป เรื่องเงินๆทองๆไม่เคยเข้าใครออกใคร ก่อนจะลงทุน ลงแรง สร้างบริษัทในฝัน อย่าลืมมองความจริงที่สำคัญ เรื่องหุ้นส่วนของบริษัท ก่อนที่จะสาย ทำให้ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อประโยชน์ของธุรกิจ และหุ้นส่วนทุกคน