ไม่ต้องกลัวการเป็นหนี้ ถ้าวางแผนให้ดีก็มีชัย

ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ แต่บางครั้งก็อาจมีเหตุความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในจำนวนที่มากกว่าเงินออมที่สะสมไว้ เช่น ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย จ่ายค่ารักษาพยาบาล ลงทุนทำธุรกิจ จ่ายค่าเล่าเรียน ซื้อรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งหากมีการวางแผนที่ดีและมีวินัยที่จะปฏิบัติตามแผนแล้ว การก่อหนี้ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว ตรงกันข้ามหากขาดการวางแผนที่ดีและขาดวินัยทางการเงิน โอกาสเกิดภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวจนประสบปัญหาทางการเงินและถูกฟ้องดำเนินคดีก็มีโอกาสสูงเช่นกัน และนี่คือเทคนิคง่ายๆ เพื่อให้การก่อหนี้ดีต่อใจ

1. เข้าใจตนเอง หากต้องการก่อหนี้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ต้องแยกแยะให้ได้ว่าอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็น หากแยกแยะไม่ได้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้จ่ายเกินตัว ทำให้กู้ยืมมากกว่าความจำเป็นพื้นฐานมากเกินไป

2. เข้าใจศักยภาพการชำระหนี้ของตนเอง อย่าเพิ่งเริ่มต้นก่อหนี้จนกว่าจะมั่นใจ เช่น กรณีซื้อทรัพย์สินราคาสูง เช่น บ้าน รถยนต์ ต้องพยายามสร้างเงินออมให้มีมูลค่าประมาณ 30 – 40% ของราคาซื้อขาย และเมื่อคำนวณการผ่อนชำระคืนทั้งหมดแล้วไม่ควรเกิน 40% ของรายได้สุทธิต่อเดือน แต่หากจะปรับอัตราส่วนให้มากขึ้นก็ไม่ผิดกติกา ขึ้นอยู่กับศักยภาพและความมีวินัยของแต่ละคน

3. เครดิตสร้างยากแต่ทำลายง่าย ต้องพยายามสร้างเครดิตให้เป็นที่ยอมรับจากเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงินตั้งแต่วันที่ยังไม่ได้คิดวางแผนก่อหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินอย่างสม่ำเสมอทั้งการออมเงินหรือการลงทุน การทำบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นต้น หากก่อหนี้ไม่ผ่านอย่าโทษเครดิตบูโรหรือบุคคลอื่น ลองสำรวจตัวเองก่อนว่าสร้างเครดิตที่ดีมากพอหรือยัง

4. เลือกใช้ประเภทสินเชื่อให้เหมาะสม ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงและเหมาะกับระยะเวลาการชำระหนี้ และควรเลือกก่อหนี้ที่สร้างรายได้หรือหนี้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น หนี้ที่อยู่อาศัย หนี้เพื่อการศึกษา หนี้ค่ารักษาพยาบาล หนี้เพื่อธุรกิจ เป็นต้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจไม่ควรใช้หนี้สินระยะสั้นไปลงทุนในระยะยาว เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังจะทำให้กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ทันที

5. หนี้มาพร้อมภาระดอกเบี้ยและความรับผิดชอบในการชำระเงินต้นคืน หนี้ที่ก่อขึ้นจะต้องสามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ด้วยรายได้ที่แท้จริง ณ ปัจจุบัน ไม่ควรคาดหวังกับรายได้ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงมากจนเกินไป เพราะหากผิดแผนจะเป็นการสร้างภาระหนี้เกินตัวทันที

6. สร้างวินัยการชำระหนี้ให้ตรงตามงวด หรือชำระหนี้ให้หมดลงโดยเร็ว เป็นการต่อยอดช่วยสร้างเครดิตของท่านต่อสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีผลดีต่อเนื่องหากต้องก่อหนี้เพิ่มอีกในอนาคตข้างหน้า

7. สร้างเงินออมสำรองไว้ยามฉุกเฉิน หากเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยกะทันหันจะได้มีเงินสำรองพอที่จะชำระหนี้ได้ตามแผนในระหว่างที่อยู่ในช่วงปรับตัว

8. เข้าใจในหลักการทั้งหมดและปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด

 

อรรถพร พรมแก้วงาม CFP®

นักวางแผนการเงิน

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย