เป็นอย่างไรบ้างคะ การประมาณการเพื่อยื่นภาษีกลางปี หรือที่เรียกว่า ภ.ง.ด.51 ดำเนินการเสร็จสิ้นกันแล้วหรือยังคะ
สำหรับการคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีกลางปีนั้น จะแตกต่างกับการคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีตอนสิ้นปีโดยยื่น ภ.ง.ด.50 เพราะการเสียภาษีกลางปีโดยยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 นั้น สามารถคำนวณได้ 2 วิธีตามมาตรา 67 ทวิ ตามประมวลรัษฏากรบัญญัติไว้ว่า “เพื่อประโยชน์ในการเรียกภาษีก่อนกำหนดเวลาตามมาตรา 68 ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลยื่นรายการตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีต่ออำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ภายใน 2 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีดังนี้
(1) ในกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนอกจากที่กล่าวใน (2) ให้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น แล้วให้คำนวณและชำระภาษีจากจำนวนกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
จากข้างต้นสรุปได้ว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะเสียภาษีกลางปี โดยยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 นั้นจะต้องเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1. ต้องเสียภาษีจากกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ
2. ต้องมีรอบระยะเวลาบัญชีแรกหรือสุดท้าย 12 เดือนเต็ม
3. ภาษีที่ชำระไปแล้วเป็นเครดิตภาษี
4. กำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิคำนวณได้ 2 วิธีคือ
4.1 โดยวิธีการเสียจากประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำ และจะได้กระทำและจะได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป
4.2 โดยวิธีการเสียจากกำไรสุทธิที่ได้จากกิจการ หรือเนื่องจากกิจการในช่วง 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น
ในที่นี้เราจะพูดถึงข้อ 4.1 ประมาณการ คือ การคาดคะเนหรือคาดหมายอย่างมีหลักเกณฑ์ตามนโยบายที่กิจการกำหนดไว้ว่ากิจการควรจะมีรายได้หรือมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีหนึ่ง
ประเภทธุรกิจ
ภาวะเศรษฐกิจทั่วไป
ข้อมูลและสถิติในการประมาณการ
นโยบายการบริหารของกิจการ
ความสามารถของผู้ทำประมาณการ
นโยบายบัญชี
ข้อมูลที่นำมากรอก (ที่มาดูจากขั้้นตอนในการจัดทำ)
This website uses cookies.