ในปัจจุบันการซื้อของออนไลน์นั้นเป็นที่นิยมกันมากในหมู่คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ ครีมประทินผิว ยาและอาหารเสริม ตลอดจนของใช้ต่างๆนานาที่เราอาจจะพิจารณาแล้วว่า การซื้อออนไลน์แล้วมันมีราคาถูกกว่าหลายๆแห่งจนกระเป๋าตังในมือสั่นต้องคลิ๊กสั่งซื้อกันรัวๆ แต่มันกลับไม่สนุกเลยถ้าหลายๆคนกลับพบปัญหาเมื่อสั่งของไปแล้วกลับไม่ได้รับของ แถมยังถูกปฏิเสธความรับผิดชอบหรือมีการหายตัวไปของคนขายอีก ก็เลยเกิดคำถามว่าจะต้องทำอย่างไร
ขอแนะนำขั้นตอนที่เป็นประโยชน์ในเบื้องต้นดังนี้นะครับ
1.รวบรวมหลักฐานต่างๆที่เกิดขึ้น
หลักฐานการประกาศขาย: ให้ Capture หน้าจอรวมถึง URL ของ Website หรือ Fan Page ต่างๆที่ทางผู้ขายได้มีการประกาศขายสินค้า รวมถึงข้อความที่ได้พูดคุยสอบถามสินค้าใน Email และ ข้อความในการสนทนาเพื่อเป็นหลักฐานที่ว่าผู้ขายมีความตั้งใจที่จะขายสินค้า
หลักฐานการจ่ายเงิน: ในฐานะที่เราเป็นคนซื้อเราเองก็ควรเก็บหลักฐานการชำระเงินไว้ด้วยเช่นกัน หากชำระผ่านทางออนไลน์ก็ Capture หน้าจอไว้ ในกรณีที่จ่ายเงินผ่านเคาเตอร์ธนาคารหรือตู้ ATM ก็ควรถ่ายสำเนาเอกสารเอาไว้ว่าเราได้มีการจ่ายเงินจริงไปแล้ว
2.นำหลักฐานต่างๆไปแจ้งความ
ก่อนที่เราจะไปแจ้งความดำเนินการต่างๆ เราจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานไปด้วยตัวเอง ให้เราปริ้นเอกสารทุกอย่างออกมาให้หมดแล้วนำไปแจ้งตำรวจ ทางตำรวจทำการสอบปากคำของเราถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำเอกสารไปพิจารณารวบรวมเป็นหลักฐานพร้อมเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ หากไม่สามารถติดต่อได้ก็จะออกหมายเรียกและออกหมายจับต่อไปเพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี
3.เจรจาไกล่เกลี่ย
เมื่อติดต่อกับผู้ขายของทางออนไลน์ได้แล้ว ทางตำรวจจะให้เราเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้ขาย โดยเราสามารถเรียกร้องให้ผู้ขายชดใช้เงินคืนได้ ในกรณีผู้ขายไม่ชดใช้เงินคืน ตำรวจก็จะดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการเพื่อส่งฟ้องในชั้นศาลเป็นลำดับต่อไปในความผิดฐานฉ้อโกง
สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้นเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ดังนี้ครับ
ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามหรือ ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากใครเคยพบปัญหาการซื้อของทางออนไลน์และไม่ได้ของ อย่าลืมแจ้งไปยังผู้ขายเพื่อให้เช็คสถานะการสั่งซื้อของก่อนนะครับ หากพบว่ามีปัญหาจริงๆและไม่สามารถเจรจาด้วยตัวเองได้ก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายตามขั้นตอนได้
This website uses cookies.