ซึ่งมีธุรกิจหนึ่งที่ถูกปรับตัวอย่างชัดเจน ก็คือธุรกิจพัฒนาสังหาริมทรัพย์ จำพวกคอนโดมิเนียม ซึ่งในปัจจุบันตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะนำเอาวิถีชีวิตของคนในเมือง เช่น มีความเร่งรีบ มีเวลาในการทำความสะอาดน้อย การอยู่คอนโดจึงมีพื้นที่ใช้สอยน้อย แต่จำเป็นจะต้องเดินทางสะดวก รวดเร็ว ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของเค้ามาเป็นโจทย์ในการออกแบบเลือกทำเลในธุรกิจพัฒนาสังหาริมทรัพย์นั้นเอง
เมื่อใดก็ตามที่เราก้าวเข้าสู่ยุค 2020 แล้วนั้น คนทั้งประเทศรวมถึงทั้งโลกต้องตระหนักเลยว่าทั้งโลกเอง กำลังประเชิญหน้ากับสังคมผู้สูงอายุซึ่งในยุคนั้นผู้สูงอายุจะมีสัดส่วนถึง 30% ของประชากรทั้งหมด แน่นอนว่าธุรกิจที่จะต้องมาแรงแน่นอน คือกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง-ตอบสนองกับผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อมหาศาลและสามารถจับจ่ายทุกสิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะสามารถทำให้ชีวิตเขายืนยาวและมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาโหยหามาตลอด นั่นก็คือธุรกิจที่ตอบสนองการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวพักผ่อน สำหรับผู้สูงอายุ ตามสถานที่ต่างๆหรือจะเป็นทัวร์ท่องเที่ยว ทัวร์ไหว้พระ การปฎิบัติธรรม นอกจากนั้นยังเป็นสินค้าจำพวกสุขภาพและอาหารเสริมรวมถึงธุรกิจทางด้านสุขภาพ
เมื่อเข้าสู่ปี 2020 ซึ่งจะเป็นปีของคนเจเนอเรชั่นวายที่กำลังมีบทบาทเพราะช่วงนั้นพวกเขาจะมีอายุตั้งแต่ 18 – 33 ปี ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของคนเจเนอเรชั่นวาย คือมีความเป็นตัวเองสูง มีความรักอิสระ ชอบความเรียบง่าย แต่ก็มีกบฏอยู่ในตัว ไม่เน้นพิธีรีตอง กล้าได้กล้าเสียและชอบความรวดเร็ว ทำให้คนยุคนี้ไม่ได้คิดเหมือนคนยุคเก่า ฉะนั้นพวกเขาจะไม่ชอบการเป็นลูกน้องใคร และค่อนข้างอยากจะมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเองสูง สิ่งที่จะตอบโจทย์คนเจเนอเรชั่นวายได้ก็คือธุรกิจที่ คอยอำนวยความสะดวกให้พวกเขานั้นสามารถมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้นั่นเอง ซึ่งก็ถือเป็นแนวทางการทำธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างมากและการเป็นนายตัวเองก็ช่วยลดปัญหาอื่นๆได้อีกมากมายอีกด้วย
ประชากรในปี 2020 นั้นจะไม่มีวิธีคิดในเรื่องการเงินเหมือนกับคนยุคเก่า พวกเขาจะวางแผนการเงินเพื่อใช้ในอนาคต โดยการใช้เครื่องมือทางการเงินสร้างมูลค่าของเงินเอง ไม่ว่าจะผ่านการเล่นหุ้น พันธบัตรหรือกองทุนรวม ด้วยเหตุผลที่ว่าให้เงินทำงาน ซึ่งขัดกับคนสมัยก่อนที่ไม่กล้าเสี่ยง แต่ในยุคต่อมาพวกเขามีความกล้าได้กล้าเสียมากกว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่และคิดว่าการนำเงินไปฝากธนาคารนั้นไม่ได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอ นั้นทำให้พวกเขาสนใจในเรื่องของการลงทุนทางการเงินด้วยการเพิ่มราคาเงินทองที่มีให้มากขึ้น และการเล่นหุ้นหรือการลงทุนทำธุรกิจ ก็เป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าเงินทองที่พวกเขาให้ความสนใจมากที่สุดแต่ก็อย่างที่รู้กันดีว่าการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง คนที่จะลงทุนแบบนี้ได้นั้น จึงต้องเป็นคนที่มีความพร้อมในการลงทุนมากพอและพร้อมที่จะรับมือกับความเสียงที่จะเกิดขึ้น เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
คนในยุค 2020 จะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรักตัวเองชอบ แม้ว่ามันจะได้เงินน้อย ซึ่งเมื่อเทียบกับคนในยุคเก่าเลือกจะทำงานที่รายได้มากกว่าที่จะเลือกทำงานที่รัก นั่นทำให้คนในยุค 2020 นั้นเป็นคนที่มุ่งหาความสุขทางใจมากกว่าความสุขทาง วัตถุเพราะพวกเขาเชื่อว่าการได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบสิ่งที่ตัวเองรักนั้นถือว่าเป็นความสุขที่ยั่งยืนกว่าการทนทำงานเพียง เพื่อมีรายได้สูง นอกจากนี้พวกเขายังให้ความสำคัญกับเวลาวันหยุดและสุขภาพมากกกคนยุคเก่าอีกด้วยนั่นหมายความว่าธุรกิจที่จะสามารถเติบโตได้ในยุค 2020 คือ ธุรกิจที่มีความเป็นตัวเองมีสไตล์ไม่เหมือนใครใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลจึงจะเป็นธุรกิจที่คนยุค 2020 เลือกใช้บริการ
This website uses cookies.