การจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม “การลงทุน” ก็เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเริ่มลงทุนในอะไรก็ตาม
ควรเริ่มต้นด้วยการเตรียมตัวเองให้พร้อมโดยต้องรู้จัก 3 ต. คือ เตรียมตัว เตรียมสตางค์ และเตรียมใจ กันก่อน
เบื้องต้นเราจึงควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจนว่า ต้องการลงทุนเพื่ออะไร? ต้องการใช้เงินประมาณเท่าไหร่? และต้องการจะบรรลุเป้าหมายนั้นเมื่อใด? ซึ่งอาจเป็นการลงทุนในระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) ระยะกลาง (1–5 ปี) หรือ ระยะยาว (ตั้งแต่ 5 ปี ข้ึนไป) ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล
บางคนอาจลงทุนระยะสั้นเพื่อเตรียมเงินไว้สำหรับดาวน์รถยนต์คันใหม่ บางคนอาจลงทุนระยะกลางเพื่อเตรียมเงินไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือบางคนอาจต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อเตรียมเงินไว้ใช้จ่ายในวัยเกษียณ ฯลฯ
จากนั้นค่อยพิจารณา “เงื่อนไข” ในการลงทุนว่าคุณรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ต้องการผลตอบแทนแบบไหน อัตราผลตอบแทนเท่าไหร่ หรือมีเงินลงทุนมากน้อยเพียงใด เพราะสิ่งเหล่านี่แหละที่จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีว่า… ทางเลือกการลงทุนแบบไหนที่จะเหมาะกับคุณมากที่สุด
นอกจากนี้ต้องเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง โดยศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับทางเลือกที่คิดจะลงทุน ไม่ว่าจะเป็นคุณลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่จะลงทุนนั้น
เมื่อกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นได้แล้ว ก็ต้องพิจารณา “สินทรัพย์ลงทุน” เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม อนุพันธ์ ฯลฯ อย่างรอบคอบเสียก่อน
มีข้อมูลทางวิชาการและสถิติมากมายระบุว่าการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนอย่างเหมาะสม สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะราคาของสินทรัพย์ลงทุนแต่ละประเภทจะตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน รวมทั้ง ใช้เวลาในการปรับขึ้นลงของราคาที่แตกต่างกัน ดังนั้น การลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทจึงช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนจำนวนมากในคราวเดียวได้เป็นอย่างดี
เมื่อกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นได้แล้วก็ต้องพิจารณา “สินทรัพย์ลงทุน” เช่น หุ้น ตราสารหนี้กองทุนรวม อนุพันธ์ ฯลฯ อย่างรอบคอบเสียก่อน
เอาเป็นว่า…ใครอยากมี “ความมั่งคั่งทางการเงิน” ควบคู่ไปกับ “ความมั่นคงทางอารมณ์”ต้องเตรียม 3 ต. ทั้ง เตรียมตัว เตรียมสตางค์ และเตรียมใจให้พร้อมจะได้ออกสตาร์ทบนเส้นทางการลงทุนแสนสุขได้อย่างผู้ลงทุนมืออาชีพ
This website uses cookies.